กาแฟที่อ่อนที่สุดคือกาแฟอะไร

กาแฟที่อ่อนที่สุดคือกาแฟอะไร วันนี้พวกเราชาว ที่สุด teesud จะมาแนะนำกาแฟที่เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ชอบรสชาติกาแฟที่เข้มข้น
กาแฟที่มีรสชาติอ่อนที่สุดคือ กาแฟบลอนด์ (Blonde Roast) เป็นกาแฟที่ผ่านการคั่วน้อยที่สุด หรือคั่วในระดับต้น ทำให้มีสีอ่อนและรสชาติอ่อนกว่ากาแฟทั่วไปมาก กาแฟบลอนด์จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ชอบรสชาติกาแฟที่เข้มข้น ตัวอย่างกาแฟบลอนด์ที่นิยม เช่น Blonde Roast ของ Starbucks, Light City Roast ของ Caribou Coffee เป็นต้น
ข้อดีของกาแฟบลอนด์
- รสชาติอ่อนกว่ากาแฟทั่วไป จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ชอบกาแฟที่มีรสชาติเข้มจัด นอกจากนี้ยังมีคาเฟอีนต่ำ จึงดีสำหรับผู้ที่ต้องการลดปริมาณคาเฟอีน แต่ก็อาจขาดกลิ่นหอมและรสชาติที่เข้มข้นของกาแฟคั่วมากกว่า
สีและกลิ่น กาแฟบลอนด์
- มีสีเหลืองอ่อนหรือน้ำตาลอ่อน เนื่องจากคั่วน้อย
- มีกลิ่นหอมของเมล็ดกาแฟสด คล้ายกลิ่นธัญพืช
รสชาติ กาแฟบลอนด์
- รสชาติอ่อนมาก มีรสขมน้อยที่สุดเมื่อเทียบกับกาแฟชนิดอื่น
- มีรสนิดหน่อย และบางครั้งอาจมีรสหวานอ่อนๆ
- ขาดกลิ่นรสหอมเข้มของกาแฟคั่วมากกว่า
ปริมาณคาเฟอีน
- มีปริมาณคาเฟอีนต่ำกว่ากาแฟคั่วปกติประมาณ 60%
นอกจากนี้ ยังมีตัวเลือกอื่นๆ ของกาแฟที่มีรสชาติอ่อน
- กาแฟขาว (White Coffee) คั่วน้อยที่สุด มีรสอ่อนหวานนิด
- กาแฟดำดีคาเฟอีน (Decaffeinated) ขจัดคาเฟอีนออก จึงมีรสอ่อนลง
ดังนั้น สำหรับผู้ที่ต้องการรสชาติกาแฟที่อ่อนที่สุด กาแฟบลอนด์น่าจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม แต่ก็อาจพิจารณาเลือกตามความชอบรสชาติของแต่ละคน
ความเข้มข้นของกาแฟ ที่กำหนดรสชาติกาแฟของคุณมีอะไรบ้าง
เป็นปัจจัยสำคัญที่กำหนดรสชาติ, กลิ่นหอม และปริมาณคาเฟอีนในแก้วกาแฟของคุณ โดยทั่วไปแล้ว ระดับความเข้มข้นจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยที่สำคัญ
- ปริมาณกาแฟบด เมื่อใช้กาแฟบดมากขึ้น ส่วนผสมต่างๆ จะถูกสกัดออกมาได้มากขึ้นด้วย ทำให้ได้รสชาติและกลิ่นหอมที่เข้มข้นยิ่งขึ้น
- เวลาในการชง ยิ่งชงกาแฟนานเท่าไร ก็จะช่วยสกัดสารต่างๆ ออกมาได้มากขึ้นเท่านั้น อาจทำให้รสชาติเข้มข้นจนเกินไปหากชงนานเกินไป
- อุณหภูมิของน้ำ โดยทั่วไปน้ำอุณหภูมิประมาณ 90-96 องศาเซลเซียส จะช่วยสกัดสารได้อย่างสมบูรณ์ แต่อุณหภูมิที่สูงหรือต่ำเกินไปอาจส่งผลต่อคุณภาพรสชาติ
- ขนาดการบดเมล็ดกาแฟ การบดละเอียดช่วยเพิ่มพื้นที่ผิวในการสกัด จึงสามารถสกัดสารได้มากขึ้น แต่การบดที่ละเอียดหรือหยาบจนเกินไปก็อาจส่งผลเสีย
- ชนิดของเมล็ดกาแฟ เมล็ดกาแฟแต่ละสายพันธุ์และการคั่วจะมีสารประกอบแตกต่างกัน ส่งผลต่อกลิ่นรสและความเข้มข้นของกาแฟได้
เรียงลำดับความเข้มข้นของกาแฟ เข้มข้นมากไปน้อย มีอะไรบ้าง
- ริสเทรตโต้ (Ristretto) เป็นเอสเพรสโซ่สกัดน้ำออกมาเพียงครึ่งเดียว ประมาณ 15 มล. ให้รสชาติเข้มข้นและกลมกล่อมกว่าเอสเพรสโซ่ปกติ
- ดับเบิลริสเทรตโต้ (Double Ristretto) เป็นเอสเพรสโซ่ 2 ช็อต แต่สกัดน้ำออกมาเท่ากับริสเทรตโต้ คือ 30 มล. มีรสชาติเข้มข้นกว่าปกติมากขึ้น
- เอสเพรสโซ่ (Espresso) คือเอสเพรสโซ่ 1 ช็อตปกติ ที่สกัดน้ำออกมา 30 มล. เป็นเบสสำคัญสำหรับเมนูกาแฟหลายชนิด
- ด๊อปปิโอ (Doppio) คือเอสเพรสโซ่ 2 ช็อตเต็มๆ โดยสกัดน้ำออกมา 60 มล. ให้รสชาติและกาเฟอีนเข้มข้นกว่าปกติ
- ลุงโก้ (Lungo) เป็นเอสเพรสโซ่ 1 ช็อต แต่สกัดน้ำออกมานานกว่าปกติ ประมาณ 70-150 มล. จึงมีรสชาติค่อนข้างจางกว่าเอสเพรสโซ่
- อเมริกาโน่ (Americano) เป็นเอสเพรสโซ่ 1 ช็อต ผสมกับน้ำร้อนประมาณ 70-120 มล. เพื่อเจือจางความเข้มข้น
- อาฟฟอกาโต้ (Affogato) เป็นจานหวานและเครื่องดื่มผสมผสานกัน ประกอบด้วยเอสเพรสโซ่ 1 ช็อต ราดลงบนไอศกรีมวานิลลา 1 สกูป รสชาติหอมกรุ่นของกาแฟร้อนผสานเข้ากับไอศกรีมเย็นละลายนุ่มนวล
- มักคิอาโต้ (Macchiato) เป็นเอสเพรสโซ่เข้มข้นผสมฟองนมนุ่มนิดหน่อย สามารถปรุงแต่งรสชาติพิเศษได้ด้วย คาราเมล มักคิอาโต้ ใช้คาราเมลแทนฟองนม หรือช็อค มักคิอาโต้ เติมรสช็อกโกแลตอร่อย
- คาพูชิโน่ (Cappuccino) มี 2 แบบ ดราย์และเวท แบบดราย์มีฟองนมมากกว่า ใช้นมร้อนน้อย ส่วนแบบเวทใช้นมร้อนมากขึ้น 40 มล. แต่ฟองนมน้อยกว่า ทั้งสองแบบจะโรยผงซินนาม่อนด้านบน
- คาเฟ่ แฮก (Caffè Hag) คือการชงกาแฟโดยใช้กาแฟดีคาเฟอีน สามารถสั่งได้ทุกเมนู เช่น มักคิอาโต้ดีคาฟ หรือคาพูชิโน่ดีคาฟ เพื่อลดปริมาณคาเฟอีน
- คาเฟ่ คอน ซคิวมา (Caffè con schiuma) คือเอสเพรสโซ่ที่ชงให้มีฟองนุ่มนวลด้านบน เพิ่มความหนึบและรสชาติที่นุ่มนวลยิ่งขึ้น
- คาเฟ่ ซคิวมาโต (Caffè schiumato) คล้ายคลึงกัน แต่เป็นการเติมฟองนมด้านบนแทน เพิ่มรสชาตินมนุ่มละมุนให้กับเอสเพรสโซ่
- คาเฟ่ กอร์เรตโต้ (Caffè corretto) เป็นเอสเพรสโซ่ที่ผสมกับเหล้า เช่น วิสกี้ ให้รสชาติเข้มข้นและมีกลิ่นหอมของแอลกอฮอล์
- คาเฟ่ บอร์เกตตี้ (Caffè borghetti) ผสมบอร์เกตตี้ลิกเกอร์ เครื่องดื่มที่นิยมดื่มในช่วงพักครึ่งของการแข่งขันฟุตบอล
- คาเฟ่ เฟรดโด้ (Caffè freddo) เป็นเอสเพรสโซ่เย็นผสมน้ำตาลและน้ำแข็งเขย่ารวมกัน เครื่องดื่มสดชื่นยามร้อน
- คาเฟ่ คอน พานนา (Caffè con panna) นั่นคือเอสเพรสโซ่ที่ราดวิปปิ้งครีมหวานฉ่ำด้านบน
- สำหรับโมคา (Mocha) ผสมโกโก้หรือช็อกโกแลตเข้ากับเอสเพรสโซ่และนมร้อน มีฟองนมเล็กน้อยหรือตกแต่งลาเต้อาร์ต
- พิกโกโล ลาเต้ (Piccolo Latte) เป็นลาเต้ขนาดเล็ก ประกอบด้วยเอสเพรสโซ่ผสมนมร้อน 40-50 มล. และฟองนมน้อยกว่าลาเต้ปกติ
- ในขณะที่ลาเต้ (Latte) คือเอสเพรสโซ่ผสมนมร้อนมากถึง 120-150 มล. มีฟองนมน้อยหรืออาจตกแต่งลาเต้อาร์ต
- ส่วนฟลัทไวท์ (Flat White) ก็คือ “นมรสกาแฟ” อย่างที่เรียกกัน ประกอบจากเอสเพรสโซ่และนมร้อนเต็มแก้ว มีรสชาติกลมกล่อม
ฉะนั้นการปรับใช้ปัจจัยต่างๆ เหล่านี้อย่างพอดี จึงจะได้ความเข้มข้น รสชาติ และกลิ่นหอมของกาแฟที่คุณต้องการ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความชอบรสชาติกาแฟแบบใดของแต่ละคน