กาแฟที่อ่อนที่สุดคือกาแฟอะไร

Published On: 9 ตุลาคม 2024
กาแฟที่อ่อนที่สุด

กาแฟที่อ่อนที่สุดคือกาแฟอะไร วันนี้พวกเราชาว ที่สุด teesud จะมาแนะนำกาแฟที่เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ชอบรสชาติกาแฟที่เข้มข้น

กาแฟที่มีรสชาติอ่อนที่สุดคือ กาแฟบลอนด์ (Blonde Roast) เป็นกาแฟที่ผ่านการคั่วน้อยที่สุด หรือคั่วในระดับต้น ทำให้มีสีอ่อนและรสชาติอ่อนกว่ากาแฟทั่วไปมาก กาแฟบลอนด์จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ชอบรสชาติกาแฟที่เข้มข้น ตัวอย่างกาแฟบลอนด์ที่นิยม เช่น Blonde Roast ของ Starbucks, Light City Roast ของ Caribou Coffee เป็นต้น

ข้อดีของกาแฟบลอนด์

  • รสชาติอ่อนกว่ากาแฟทั่วไป จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ชอบกาแฟที่มีรสชาติเข้มจัด นอกจากนี้ยังมีคาเฟอีนต่ำ จึงดีสำหรับผู้ที่ต้องการลดปริมาณคาเฟอีน แต่ก็อาจขาดกลิ่นหอมและรสชาติที่เข้มข้นของกาแฟคั่วมากกว่า

สีและกลิ่น กาแฟบลอนด์

  • มีสีเหลืองอ่อนหรือน้ำตาลอ่อน เนื่องจากคั่วน้อย
  • มีกลิ่นหอมของเมล็ดกาแฟสด คล้ายกลิ่นธัญพืช

รสชาติ กาแฟบลอนด์ 

  • รสชาติอ่อนมาก มีรสขมน้อยที่สุดเมื่อเทียบกับกาแฟชนิดอื่น
  • มีรสนิดหน่อย และบางครั้งอาจมีรสหวานอ่อนๆ
  • ขาดกลิ่นรสหอมเข้มของกาแฟคั่วมากกว่า

ปริมาณคาเฟอีน

  • มีปริมาณคาเฟอีนต่ำกว่ากาแฟคั่วปกติประมาณ 60%

นอกจากนี้ ยังมีตัวเลือกอื่นๆ ของกาแฟที่มีรสชาติอ่อน 

  • กาแฟขาว (White Coffee) คั่วน้อยที่สุด มีรสอ่อนหวานนิด
  • กาแฟดำดีคาเฟอีน (Decaffeinated) ขจัดคาเฟอีนออก จึงมีรสอ่อนลง

ดังนั้น สำหรับผู้ที่ต้องการรสชาติกาแฟที่อ่อนที่สุด กาแฟบลอนด์น่าจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม แต่ก็อาจพิจารณาเลือกตามความชอบรสชาติของแต่ละคน

ความเข้มข้นของกาแฟ ที่กำหนดรสชาติกาแฟของคุณมีอะไรบ้าง

เป็นปัจจัยสำคัญที่กำหนดรสชาติ, กลิ่นหอม และปริมาณคาเฟอีนในแก้วกาแฟของคุณ โดยทั่วไปแล้ว ระดับความเข้มข้นจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยที่สำคัญ

  • ปริมาณกาแฟบด เมื่อใช้กาแฟบดมากขึ้น ส่วนผสมต่างๆ จะถูกสกัดออกมาได้มากขึ้นด้วย ทำให้ได้รสชาติและกลิ่นหอมที่เข้มข้นยิ่งขึ้น
  • เวลาในการชง ยิ่งชงกาแฟนานเท่าไร ก็จะช่วยสกัดสารต่างๆ ออกมาได้มากขึ้นเท่านั้น อาจทำให้รสชาติเข้มข้นจนเกินไปหากชงนานเกินไป
  • อุณหภูมิของน้ำ โดยทั่วไปน้ำอุณหภูมิประมาณ 90-96 องศาเซลเซียส จะช่วยสกัดสารได้อย่างสมบูรณ์ แต่อุณหภูมิที่สูงหรือต่ำเกินไปอาจส่งผลต่อคุณภาพรสชาติ
  • ขนาดการบดเมล็ดกาแฟ การบดละเอียดช่วยเพิ่มพื้นที่ผิวในการสกัด จึงสามารถสกัดสารได้มากขึ้น แต่การบดที่ละเอียดหรือหยาบจนเกินไปก็อาจส่งผลเสีย
  • ชนิดของเมล็ดกาแฟ เมล็ดกาแฟแต่ละสายพันธุ์และการคั่วจะมีสารประกอบแตกต่างกัน ส่งผลต่อกลิ่นรสและความเข้มข้นของกาแฟได้

เรียงลำดับความเข้มข้นของกาแฟ เข้มข้นมากไปน้อย มีอะไรบ้าง

  1. ริสเทรตโต้ (Ristretto) เป็นเอสเพรสโซ่สกัดน้ำออกมาเพียงครึ่งเดียว ประมาณ 15 มล. ให้รสชาติเข้มข้นและกลมกล่อมกว่าเอสเพรสโซ่ปกติ
  2. ดับเบิลริสเทรตโต้ (Double Ristretto) เป็นเอสเพรสโซ่ 2 ช็อต แต่สกัดน้ำออกมาเท่ากับริสเทรตโต้ คือ 30 มล. มีรสชาติเข้มข้นกว่าปกติมากขึ้น
  3. เอสเพรสโซ่ (Espresso) คือเอสเพรสโซ่ 1 ช็อตปกติ ที่สกัดน้ำออกมา 30 มล. เป็นเบสสำคัญสำหรับเมนูกาแฟหลายชนิด
  4. ด๊อปปิโอ (Doppio) คือเอสเพรสโซ่ 2 ช็อตเต็มๆ โดยสกัดน้ำออกมา 60 มล. ให้รสชาติและกาเฟอีนเข้มข้นกว่าปกติ
  5. ลุงโก้ (Lungo) เป็นเอสเพรสโซ่ 1 ช็อต แต่สกัดน้ำออกมานานกว่าปกติ ประมาณ 70-150 มล. จึงมีรสชาติค่อนข้างจางกว่าเอสเพรสโซ่
  6. อเมริกาโน่ (Americano) เป็นเอสเพรสโซ่ 1 ช็อต ผสมกับน้ำร้อนประมาณ 70-120 มล. เพื่อเจือจางความเข้มข้น
  7. อาฟฟอกาโต้ (Affogato) เป็นจานหวานและเครื่องดื่มผสมผสานกัน ประกอบด้วยเอสเพรสโซ่ 1 ช็อต ราดลงบนไอศกรีมวานิลลา 1 สกูป รสชาติหอมกรุ่นของกาแฟร้อนผสานเข้ากับไอศกรีมเย็นละลายนุ่มนวล
  8. มักคิอาโต้ (Macchiato) เป็นเอสเพรสโซ่เข้มข้นผสมฟองนมนุ่มนิดหน่อย สามารถปรุงแต่งรสชาติพิเศษได้ด้วย คาราเมล มักคิอาโต้ ใช้คาราเมลแทนฟองนม หรือช็อค มักคิอาโต้ เติมรสช็อกโกแลตอร่อย
  9. คาพูชิโน่ (Cappuccino) มี 2 แบบ ดราย์และเวท แบบดราย์มีฟองนมมากกว่า ใช้นมร้อนน้อย ส่วนแบบเวทใช้นมร้อนมากขึ้น 40 มล. แต่ฟองนมน้อยกว่า ทั้งสองแบบจะโรยผงซินนาม่อนด้านบน
  10. คาเฟ่ แฮก (Caffè Hag) คือการชงกาแฟโดยใช้กาแฟดีคาเฟอีน สามารถสั่งได้ทุกเมนู เช่น มักคิอาโต้ดีคาฟ หรือคาพูชิโน่ดีคาฟ เพื่อลดปริมาณคาเฟอีน
  11. คาเฟ่ คอน ซคิวมา (Caffè con schiuma) คือเอสเพรสโซ่ที่ชงให้มีฟองนุ่มนวลด้านบน เพิ่มความหนึบและรสชาติที่นุ่มนวลยิ่งขึ้น
  12. คาเฟ่ ซคิวมาโต (Caffè schiumato) คล้ายคลึงกัน แต่เป็นการเติมฟองนมด้านบนแทน เพิ่มรสชาตินมนุ่มละมุนให้กับเอสเพรสโซ่
  13. คาเฟ่ กอร์เรตโต้ (Caffè corretto) เป็นเอสเพรสโซ่ที่ผสมกับเหล้า เช่น วิสกี้ ให้รสชาติเข้มข้นและมีกลิ่นหอมของแอลกอฮอล์
  14. คาเฟ่ บอร์เกตตี้ (Caffè borghetti) ผสมบอร์เกตตี้ลิกเกอร์ เครื่องดื่มที่นิยมดื่มในช่วงพักครึ่งของการแข่งขันฟุตบอล
  15. คาเฟ่ เฟรดโด้ (Caffè freddo) เป็นเอสเพรสโซ่เย็นผสมน้ำตาลและน้ำแข็งเขย่ารวมกัน เครื่องดื่มสดชื่นยามร้อน
  16. คาเฟ่ คอน พานนา (Caffè con panna) นั่นคือเอสเพรสโซ่ที่ราดวิปปิ้งครีมหวานฉ่ำด้านบน
  17. สำหรับโมคา (Mocha) ผสมโกโก้หรือช็อกโกแลตเข้ากับเอสเพรสโซ่และนมร้อน มีฟองนมเล็กน้อยหรือตกแต่งลาเต้อาร์ต
  18. พิกโกโล ลาเต้ (Piccolo Latte) เป็นลาเต้ขนาดเล็ก ประกอบด้วยเอสเพรสโซ่ผสมนมร้อน 40-50 มล. และฟองนมน้อยกว่าลาเต้ปกติ
  19. ในขณะที่ลาเต้ (Latte) คือเอสเพรสโซ่ผสมนมร้อนมากถึง 120-150 มล. มีฟองนมน้อยหรืออาจตกแต่งลาเต้อาร์ต
  20. ส่วนฟลัทไวท์ (Flat White) ก็คือ “นมรสกาแฟ” อย่างที่เรียกกัน ประกอบจากเอสเพรสโซ่และนมร้อนเต็มแก้ว มีรสชาติกลมกล่อม

ฉะนั้นการปรับใช้ปัจจัยต่างๆ เหล่านี้อย่างพอดี จึงจะได้ความเข้มข้น รสชาติ และกลิ่นหอมของกาแฟที่คุณต้องการ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความชอบรสชาติกาแฟแบบใดของแต่ละคน

เมล็ดกาแฟ เมล็ดกาแฟไทย  กำลังลดราคา

เรื่องฮอตประจำสัปดาห์