กาแฟส้ม มีผลกระทบต่อสุขภาพที่ไม่มีใครเคยบอกคุณ
กาแฟส้ม เมนูยอดฮิตของคอกาแฟในยุคนี้ แต่มีผลกระทบต่อสุขภาพ ที่คุณอาจไม่รู้ วันนี้ รู้ยัง108? RuleYoung มีคำตอบให้เหมือนเดิม
กาแฟเป็นเครื่องดื่มยอดนิยมที่ได้รับความชื่นชอบจากผู้คนทั่วโลก แต่นอกเหนือจากกาแฟธรรมดาแล้ว ยังมีเครื่องดื่มประเภทกาแฟผสมอื่นๆ ที่ก้าวขึ้นมามีบทบาทในตลาดเช่นกัน หนึ่งในนั้นคือ “กาแฟส้ม” ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่คนรุ่นใหม่ แต่ผลกระทบของมันต่อสุขภาพนั้นยังคงเป็นที่ถกเถียงกันอยู่
ผลกระทบของกาแฟส้มต่อสุขภาพ
- ปริมาณคาเฟอีนสูง กาแฟส้มประกอบด้วยทั้งกาแฟและน้ำผลไม้เปรี้ยว ซึ่งทำให้มีปริมาณคาเฟอีนสูงกว่ากาแฟธรรมดา คาเฟอีนเป็นสารกระตุ้นประสาทที่อาจนำไปสู่อาการใจสั่น นอนไม่หลับ และความดันโลหิตสูงได้ถ้าดื่มในปริมาณมาก
- กรดจากน้ำผลไม้ น้ำผลไม้เปรี้ยวเช่นน้ำส้มหรือน้ำมะนาวที่ใช้ผสมกับกาแฟมีค่าความเป็นกรดสูง ซึ่งอาจทำให้เกิดการระคายเคืองต่อกระเพาะอาหารและกรดไหลย้อน
- น้ำตาลสูง บางสูตรกาแฟส้มมีส่วนผสมของน้ำตาลหรือน้ำเชื่อมปริมาณสูง ซึ่งเป็นอันตรายต่อผู้ที่มีปัญหาเบาหวานหรือต้องควบคุมน้ำหนัก
- วัตถุกันเสียและสารปรุงแต่ง กาแฟส้มบางยี่ห้ออาจมีส่วนผสมของวัตถุกันเสียหรือสารปรุงแต่งอื่นๆ ที่อาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้ถ้าบริโภคในปริมาณมาก
แม้กาแฟส้มจะมีรสชาติที่น่าดึงดูดใจ แต่การบริโภคอย่างระมัดระวังและพอดีเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบต่อสุขภาพจากปริมาณของส่วนประกอบต่างๆ ที่มากเกินไป
อเมริกาโน่ส้ม ใช้กาแฟกี่ช็อต ขึ้นอยู่กับสูตรและร้านที่สั่ง ทั่วไปแล้ว อเมริกาโน่ส้มจะประกอบด้วย
- 1-2 ช็อตเอสเพรสโซ่ ซึ่งเป็นกาแฟข้นที่สกัดจากเมล็ดกาแฟคั่ว
- นมที่ได้รับการฟองแอร์ให้มีเนื้อนุ่มนวล – น้ำส้มสายชูหรือน้ำส้มคั้นสด เพื่อให้รสชาติมีความเปรี้ยวเล็กน้อย
อเมริกาโน่ส้มจะใช้กาแฟขนาด 1-2 ช็อต ขึ้นอยู่กับขนาดแก้วและความเข้มข้นของรสชาติกาแฟที่ต้องการ บางสูตรอาจเพิ่มส่วนผสมอื่นๆ เช่น น้ำตาลทรายหรือซิροปส้มเพื่อปรุงแต่งรสชาติให้กลมกล่อมยิ่งขึ้น
กาแฟห้ามกินกับผลไม้อะไร
- ผลไม้ตระกูลส้ม เช่น ส้ม แตงโม กระเจี๊ยบเขียว เป็นต้น เพราะ วิตามินซีในผลไม้เหล่านี้จะทำปฏิกิริยากับสารคาเฟอีนในกาแฟ ส่งผลให้ร่างกายดูดซึมคาเฟอีนได้มากขึ้น อาจทำให้รู้สึกวิตกกังวล นอนไม่หลับ หรือเกิดอาการข้างเคียงอื่นๆ จากการได้รับคาเฟอีนมากเกินไป
- ผลไม้รสเปรี้ยว เช่น มะนาว ทับทิม ลิ้นจี่ เพราะ กรดในผลไม้เหล่านี้อาจทำลายสารต้านอนุมูลอิสระในกาแฟ ลดประสิทธิภาพของสารต้านอนุมูลอิสระเหล่านั้น
- ผลไม้กินดิบ หลีกเลี่ยงการกินผลไม้กินดิบร่วมกับกาแฟ เพราะจะทำให้เกิดการย่อยไม่สะดวก เนื่องจากกรดในผลไม้สดจะไปขัดขวางการย่อยคาเฟอีน
กาแฟส้ม หรือ อเมริกาโน่ส้ม กินยังไง มีเคล็ดลับง่ายๆ ดังนี้
- เลือกกาแฟคั่วระดับกลางถึงดำ เพื่อรสชาติกาแฟที่เข้มข้น หอม และมีกลิ่นคาราเมล
- ใช้เอสเพรสโซ่ 1-2 ช็อต ปริมาณขึ้นอยู่กับขนาดแก้วและความชอบของแต่ละคน
- เติมน้ำส้มสายชูรสเปรี้ยวหวานประมาณ 1-2 ช้อนโต๊ะ หรือเลือกใช้น้ำส้มคั้นสดก็ได้
- เติมนมที่ฟองแล้วประมาณ 1 ใน 3 ของแก้ว ให้มีเนื้อนุ่มนวล
- คนส่วนผสมให้เข้ากันก่อนดื่ม เพื่อให้รสชาติกลมกล่อม
- ปรุงแต่งด้วยน้ำตาลทรายหรือซิโรปส้มตามชอบ หากต้องการความหวานมากขึ้น
- โรยหน้าด้วยผงกาแฟ หรือใส่ชิ้นส้มสดเพื่อเพิ่มกลิ่นหอม
- ดื่มทันทีหลังจากผสมเพื่อรสชาติที่ดีที่สุด
เคล็ดลับสำคัญคือการผสมอย่างพอดี ไม่มากหรือน้อยจนเกินไป เพื่อให้ได้รสชาติที่มีความหวานมันเล็กน้อย มีกลิ่นหอมกรุ่น และความเปรี้ยวอ่อนๆ ของส้มผสานกับรสกาแฟอย่างกลมกล่อม
กาแฟส้มต้องคนก่อนไหม
- การคนส่วนผสมของกาแฟส้มหรืออเมริกาโน่ส้มก่อนดื่มนั้นเป็นสิ่งที่ควรทำ เพื่อให้ได้รสชาติที่ดีที่สุด